เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระบุรี สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) บริษัทเมืองไทยครีเอทีฟแอนด์ทัวร์จำกัด และสำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม (สทส.) จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ KIHA183 ชมหินงอกหินย้อย วัดธรรมถ้ำปลา สักการะพระพุทธบาทจำลอง วัดพระพุทธบาทน้อย ชิม ช้อป ตลาดหัวปลี มหัศจรรย์ ภาพแกะสลัก ศิลปะสมัยทวาราวดี วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตื่นตา หอมนสิการ Unseen แห่งใหม่ @ สระบุรี

ลงทะเบียนรับป้ายคล้องคอ



นักท่องเที่ยวเดินทางมาลงทะเบียน ที่สถานีกรุงเทพทั้งหมด 200 คน เต็มทุกที่นั่ง และรับป้ายคล้องคอกันแต่เช้า ลงทะเบียนเรียบร้อยรับเครื่องดื่มร้อน ชา กาแฟ โอวันติน จากนั้นใครจะถ่ายรูปเช็คอินก่อนขึ้น รถไฟ KIHA183 เพื่อเดินทางไปจังหวัดฉะเชิงเทราในเวลา 7.30 นาฬิกา

ออกเดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง



หลังจาก รถไฟ KIHA183 เริ่มออกเดินทางได้สักพัก น้องๆ Staff ก็เริ่มให้บริการอาหารเช้าแบบ เบนโตะไทย เมนูวันนี้เป็น ข้าวหน้าไก่อมซอสเทอรายากิ เคียงมาด้วยไข่ต้มยางมะตูม พร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด เสิร์ฟพร้อมชาเขียวและน้ำเปล่า



สถานีรถไฟแก่งคอย

นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย พร้อมด้วย นางสาวนิสา สังข์ศร ผู้ช่วยผู้อำนายการ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสระบุรี นายอลงกรณ์ ฝีมือช่าง พนักงานบริหารทั่วไป 6 เพชรบุรี การรถไฟแห่งประเทศไทย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) และนางรัศนญพร มโนศรีบุญรัตธ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเพื่อเศรษฐกิจชุมชนสระบุรี ร่วมต้อนรับคณะนักท่องเที่ยว และนำมาลัยมอบให้เพื่อต้อนรับคณะนักท่องเที่ยว ยินดีที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดสระบุรี



รถไฟ KIHA183 มาถึงสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอยในเวลา 10.05 นาฬิกา แล้วมาต่อด้วยรถบัส ก่อนขึ้นรถบัส ถ่ายรูปหมู่ที่หน้าสถานีชุมทางแก่งคอยเป็นที่ระลึกกันก่อน เสร็จแล้วนักท่องเที่ยวขึ้นรถบัสตามสีของสายคล้องคอที่ Team Steff แบ่งให้ไว้แล้ว รถบัสทั้งหมด 5 คัน ที่จอดรออยู่แล้วที่หน้าสถานีชุมทางแก่งคอย

ชมหินงอกหินย้อยถ้ำพระธาตุเจริญธรรมหรือถ้ำบ่อปลา



ถ้ำพระธาตุเจริญธรรม หรือ ถ้ำบ่อปลา ตั้งอยู่ที่ถนนพุแค – แก่งคอย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นถ้ำที่อยู่ในภูเขาหินปูนสูงประมาณ 300 เมตร จากทางขึ้น ถูกค้นพบโดย หลวงพ่อสมศักดิ์ สุระธัมโม เมื่อครั้งธุดงค์มาแถวนี้ ภายในถ้ำเป็นห้องโถงทางเดินขนาดใหญ่ ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยสมัยอยุธยา เดินต่อไปมีห้องโถงถ้ำ 3 ห้อง มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ห้องแรกชื่อ ถ้ำบ่อปลา เนื่องจากยังมีน้ำหยดลงมาผนังถ้ำ จนเป็นแอ่งน้ำ สันนิษฐานว่าเมื่อก่อนน่าจะปลาพวงอาศัยอยู่ จึงตั้งชื่อว่าถ้ำบ่อปลา แต่ในปัจจุบันไม่มีปลาพวงอาศัยอยู่แล้ว ห้องที่ 2 ถ้ำท้องพระโรง มีหินงอกหินย้อย มองคล้ายเจ้าแม่กวนอิม และฮก ลก ซิ่ว ตามแต่จินตนาการ ห้องที่ 3 ถ้ำคูหาพระ มีพระพุทธรูปประดิษฐานตามหลืบถ้ำ



ก่อนเข้าชมภายในถ้ำบ่อปลา ตัวแทนชุมชนบ้านบ่อปลา มาต้อนรับคณะนักท่องเที่ยว ฟังประวัติความเป็นของถ้ำบ่อปลา แล้วเสิร์ฟเบรคอาหารว่างเป็น ขนมมัน ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็แบ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มๆ เพื่อเดินเข้าไปชมความงดงามภายในถ้ำได้ ครั้ง 10 คน เนื่องจากภายในถ้ำอากาศน้อย กลัวว่านักท่องเที่ยวจะหายใจไม่สะดวก

สักการะพระพุทธบาทจำลองวัดพระพุทธบาทน้อย



พระพุทธบาทจำลองวัดพระพุทธบาทน้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ถูกค้น เมื่อปี 2403 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จมาเพื่อหาสถานที่สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ ได้พบรอยพระพุทธบาทน้อยองค์นี้ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขา และหลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปโบราณ ที่ประดิษฐานอยู่ในถ้ำ บนภูเขาลูกเดียวกัน กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนรอยพระพุทธบาทน้อยเป็นวัตถุโบราณใน ปีพ.ศ. 2487 ปัจจุบันมีการสร้างวิหารทรงจตุรมุก ครอบรอยพระพุทธบาทเอาไว้ แต่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จเพราะขาดงบประมาณ



คณะนักท่องเที่ยวร่วมกันทำบุญถวายสังฆทาน แด่เจ้าอาวาส วัดพระพุทธบาทน้อยเพื่อสมทบทุนสร้างวิหาร ครอบพระพุทธบาทน้อยให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถปิดทองหลวงพ่อใหญ่ ที่ปัจจุบันนำมาประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังนี้ด้วย และทำบุญทอดผ้าป่ายอดดอยได้อีกทางหนึ่งด้วย

ตื่นตาหอมนสิการ Unseen แห่งใหม่


หอมนสิการได้รับการคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เป็น Unseen แห่งใหม่ จังหวัดสระบุรี ของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ริมเขาพระพุทธบาทน้อย ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี จัดสร้างขึ้นตามแนวคิดของ อาจารย์อัจฉราวดีวงศ์สกล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เทิดพระเกียรติ ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุรวม 23 พระองค์ เป็นสถานที่สำหรับฝึกสมาธิเบื้องต้น เผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา และจัดแสดงนิทรรศการสื่อผสม Journey to the Life of Buddha



เข้ารับฟังการบรรยายสรุปก่อนแบ่งกลุ่มย่อย เข้าชมตามฐานต่างๆของหอมนสิการ ฐานแรก เทิดพระเกียรติ ถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่งท่องเที่ยวจะได้ฟังเรื่องราวของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากหูฟังที่ได้รับก่อนเข้าชม มีหลายภาษาให้เลือกฟังด้วย ฐานที่ 2 ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ รวม 23 พระองค์ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งถ่ายรูปกับพระบรมสารีริกธาตุได้ และฐานที่ 3 จัดแสดงนิทรรศการสื่อผสม Journey to the Life of Buddha

ชิมช้อปตลาดหัวปลี



ตลาดหัวปลี ตั้งอยู่ที่ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี เป็นตลาดชุมชนเกษตร ขายสินค้าโอท็อปจากชุมชนพุแค มีทั้งของกิน ของใช้ ผักพื้นบ้าน และผักปลอดสารพิษ ภายในตลาดเย็นสบาย ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ สวนไผ่ นาบัว ป่าสมุนไพร บรรยากาศเก๋ไก๋ ตกแต่งในแต่ละมุมได้น่ารัก มีจุดให้ถ่ายภาพเช็คอินหลายจุดมาก นักท่องเที่ยวซื้อฝากกลับบ้านได้ด้วย

คณะนักท่องเที่ยวแวะทานอาหารกลางวันกันที่ตลาดหัวปลี ทานเสร็จจะได้ช้อปกันต่อได้เลย อาหารจัดเป็นแบบเซ็ทเมนู จากรสมือของแม่ค้าในตลาดหัวปลี จัดให้นั่งกันแบบสบายๆโต๊ะละ 6 คน เมนูวันนี้ประกอบไปด้วย หมูยอทอดกระเทียม ยำหัวปลี น้ำพริกปลาป่น ผัดวุ้นเส้นหน่อไม้สด ต้มขาไก่หัวปลี ของหวานเป็นมะม่วงน้ำปลาหวาน อาหารอร่อยทุกเมนู

มหัศจรรย์ภาพแกะสลักศิลปะสมัยทวาราวดีวัดถ้ำพระโพธิสัตว์



วัดถ้ำพระโพธิสัตว์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นวัดสายวิปัสสนากรรมฐาน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขามีภูเขาล้อมรอบ ชาวบ้านเรียกว่า ถ้ำพระงาม หรือเขาน้ำพุ ภายในวัดมี ถ้ำพระโพธิสัตว์ ตั้งอยู่ และยังมีถ้ำอื่นๆอีกหลายถ้ำ เช่นถ้ำพระธรรมทัศน์ ถ้ำลุมพินี ถ้ำสงัดเจดีย์ ภายในถ้ำพระโพธิสัตว์ มีไฮไลท์ก็คือ ภาพแกะสลักผนังถ้ำแบบนูนต่ำ ศิลปะสมัยทวาราวดี เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งห้อยพระบาท ปางวิตรรกะ (ปางแสดงธรรม) อยู่ท่ามกลาง พระศิวะ พระวิษณุ และเทพอีก 2 องค์ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้แล้ว



นักท่องเที่ยวต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 300 กว่าขั้น ก็จะถึงตัวถ้ำ ระหว่างทางมีจุดพักชมวิวอยู่ 2 จุด ก่อนถึงปากถ้ำมีระฆังให้ตีดังๆ แสดงว่านักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาถึงหน้าถ้ำแล้ว ภายในถ้ำมีจุดน่าสนใจอยู่หลายจุด ลงจากปากทางเข้าไปภายในถ้ำ มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ ทางขวาเป็นถ้ำประกายเพชร มีหินงอกหินย้อยผิวระยิบระยับ คล้ายประกายเพชรมาชนกันเป็นแท่งมะเฟืองสวยงาม เดินเข้าทางด้านซ้ายของถ้ำ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายจระเข้ นักท่องเที่ยวมาเช็คอินถ่ายรูป ตามจินตนาการว่ากำลังต่อสู้กับจระเข้

สนใจนั่งรถไฟ KIHA 183 ทริปต่อไปจองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศหรือช่องทางการจำหน่ายตั๋วระบบออนไลน์ D-Ticket ของการรถไฟแห่งประเทศไทยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือโทร. 0812512207 0850658144 0626696441