เรื่อง/ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา

     การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา เปิดเส้นทางแกรนด์โมเมนต์แห่งความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาขอพร “หลวงพ่อศิลา” กลางกว๊านพะเยา 9 สิ่ง ต้องมาทำ วัดเก่าเกาะกลางกว๊านพะเยาทุกวันพระขึ้น 15 ค่ำ ของทุกเดือน ณ วัดติโลกอาราม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว ได้มาสัมผัสกับประสบการณ์ใน Moment แห่งความทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้มาไหว้พระขอพรหลวงพ่อศิลา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อายุเกือบ 1,000 ปี ที่มีความสง่างาม และเลื่องชื่อในด้านความศักดิ์สิทธิ์

     นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดพะเยาได้หลากหลายช่องทาง ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวก็เลือกเที่ยวได้ตามเส้นทาง แกรนด์โมเมนต์แห่งความทรงจำ ได้เลย ถ้ามาโดยทางรถบัสประจำทาง ก็จะต้องจองทัวร์ แกรนด์โมเมนต์แห่งความทรง มาด้วย ถึงจะมีรถจากบริษัททัวร์ท้องถิ่นมารับที่สถานีขนส่งจังหวัดพะเยา หรือมาทางเครื่องบินก็ต้องมาลงที่สนามบินเชียงราย แล้วเช่ารถเที่ยวต่อได้เลย แต่ที่สะดวกสบายที่สุดก็คือใช้บริการบริษัททัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเขาจะจัดการให้หมด ไม่ว่าเราจะเลือกเดินทางโดยวิธี  จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ร้านอาหาร รถตู้ในการท่องเที่ยว มีไกด์ให้ความรู้ และบริการตลอดทริปการเดินทางท่องเที่ยว

          วิหารสีน้ำเงิน วัดร่องเสือเต้น

     ในทริปนี้จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว 2 คืน 3 วัน โดยใช้บริการบริษัททัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ เดินทางโดยเครื่องบิน บินมาลงที่สนามบินเชียงราย มีรถตู้ VIP 8 ที่นั่งมารับถึงสนามบิน มีไกด์ประจำทุกตู้ วิหารสีน้ำเงิน วัดร่องเสือเต้น เป็นวัดแรกที่ทัวร์จะแวะเที่ยวชม

   วัดร่องเสือเต้น วัดร้างเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากคนในชุมชน ตัววิหารออกแบบโดย สล่านก ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย แห่งวัดร่องขุ่น เชียงราย ศิลปะของตัวพระอุโบสถ์ และองค์ประกอบภายในวัด ศิลปะแบบพุทธศิลป์ โดยอาจารย์เฉลิมชัย จึงอ่อนช้อยเหมือนกับวัดร่องขุ่น ต่างกันที่วิหารสีน้ำเงิน กับอุโบสถ์วัดร่องขุ่นสีขาว 

    ภายในวิหารประดิษฐาน พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากหินหยกสีขาวมุกทั้งองค์ พระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ผนังวิหารด้านหลังประดิษฐาน พระรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระพุทธรูปปางห้ามญาติสีขาวขนาดใหญ่ ด้านหลังวิหารยังมี พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์สูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ

        อุโบสถสีขาว วัดร่องขุ่น

   วัดร่องขุ่น ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นวัดเก่า ได้รับการบูรณะโดยอาจารย์เฉลิม ชัยโฆษิตพิพัฒน์ ด้วยศิลปะกรรมแบบพุทธศิลป์ ลวดลายอ่อนช้อยประณีต กลายเป็น Landmark ของจังหวัดเชียงราย Unseen Thailand ไปแล้ว ไม่ใช่ดังแค่ในประเทศเท่านั้น นักท่องเที่ยวทั่วโลกก็ยังรู้จัก

    นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเรียกว่า วัดขาว (Thailand White Temple) ช่อฟ้า 3 ชั้น ศีล สมาธิ ปัญญา พร้อมใบระกา หางหงษ์ อ่อนช้อยวิจิตรอลังการ เป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันลงมา หน้าบันมีรูปปูนพญานาคแแบบนูนต่ำ ประดับกระจกระยิบระยับ ด้านหน้ามีทางเดินเข้าตัวอุโบสถ เป็นสะพานทอดยาวเดินข้ามวัฏสงสาร มุ่งหน้าสู่พุทธภูมิที่ดี ภายในอุโบสถยังมีภาพจิตกรรมฝาผนัง พุทธศิลป์ ฝีแปลง อาจารย์เฉลิมและลูกศิษย์ มาเที่ยวเชียงรายถ้าไม่มาชม อุโบสถสีขาว วัดร่องขุ่น ถือว่ามาไม่ถึงเชียงราย

        วัดม่อนพญานาค องค์พญานาคใหญ่สุดภาคเหนือ

     คณะของเราเดินทางออกจากเชียงราย มุ่งหน้าลงใต้เข้าสู่เมืองพะเยา มาเช็คอินที่ วัดป่าพุทธชินวงศ์ศาราม หรือวัดม่อนพญานาค เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่ที่ตำบล อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา จัดสร้างขึ้นโดยมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ มีองค์สัตตนาคราช พญามุจรินท์ ความยาว 900 เมตร ล้อมรอบภูเขา องค์พญานาคใหญ่สุดของภาคเหนือ พร้อมสิ่งศักดิ์ประจำวัดทั้ง พระพุทธมหาจักรพรรดิโลกวิวรณ์ ท้าวเวสสุวรรณ

        บริเวณลานด้านหน้าสำนักสงฆ์ ด้านหน้าประดิษฐาน พระพุทธมหาจักรพรรดิโลกวิวรณ์ (พระพุทธจักรพรรดิปางเปิดโลกทรงเครื่อง) มีรูปปั้นช้างอยู่ด้านหน้า 2 เชือก ภายในถ้ำภาวนาโพธิญาณ ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกสีขาวมุกปางมารวิชัย ทรงเครื่องกษัตริย์ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม มีห้องปฏิบัติธรรม 111 ห้อง เปิดให้ชาวพุทธเข้าปฏิบัติธรรมได้

         เยี่ยมชุมชน บ้านเวียงลอ

    ชุมชนบ้านเวียงลอ เป็นชุมชนโบราณล้านนา ตั้งอยู่ในตำบลลอ และตำบลหงส์หิน อำเภอจุน จังหวัดพะเยา มีแม่น้ำอิงไหลผ่านกลางเมือง ทำให้เวียงลอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือฝั่งเหนือของแม่น้ำอิง อยู่ในเขตตำบลหงส์หิน และฝั่งใต้อยู่ในเขตตำบลลอ คณะของเรามาถึงบ้านเวียงลอในช่วงบ่าย คนในชุมชนมาฟ้อนเวียงลอ และเด็กนักเรียนมาตีกองสะบัดชัย ต้อนรับคณะของเรา  

          วัดศรีปิงเมือง เป็นวัดเก่าแก่ในชุมชนเวียงลอ เป็นศูนย์รวมของชุมชนชาวบ้านลอ ในปัจจุบัน ยังมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่  มีโบราณสถานสำคัญได้แก่เจดีย์ทรงระฆังขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนา – สุโขทัย  มีวิหารใหม่ที่สร้างครอบทับซากวิหารหลังเดิม ใช้ทำพิธีประกอบทางศาสนา หน้าวัดมีอนุสาวรีย์พญาลอ ตั้งอยู่ คนในชุมชนมากราบขอพร ถ้าประสบผลสำเร็จก็จะนำไก่ชนมาถวาย เนื่องจากพระลอชอบเล่นไก่ชน

       ร่วมกิจกรรม DIY ทำซาลาเปาพญาลอ ชุมชนเวียงลอ

   ชมฟ้อนต้อนรับกับตีกองสะบัดชัยเสร็จ ก็มาร่วมทำกิจกรรม DIY ทำซาลาเปาพญาลอกับคนในชุมชนเวียงลอได้ทุกคน แป้งซาลาเปา ไส้หมู ไส้ครีม ไส้ถั่วดำ ได้จัดเตรียมไว้ให้หมดแล้ว นักท่องเที่ยวมีหน้าที่ นำแป้งซาลาเปามาตีให้เป็นทรงกลมแผ่นบางๆ เลือกใส่ไส้ได้ตามใจชอบ แล้วห่อจีบให้เป็นลูกซาลาเปา เสร็จแล้วนำไปนึ่งให้สุก หลังจากกลับจากชมวัดโบราณเวียงลอเสร็จ ก็มารับซาลาเปาที่ตัวเองทำกับมือไปทานได้เลย

    ในอดีตคนเวียงลอขับรถพ่วงข้างขาย ซาลาเปาพญาลอ ไส้หมู ไส้ครีม ไส้ถั่วดำ ขนมจีบ ของดีเมืองจุน อยู่หลายร้อยคนทั่วกรุงเทพมหานคร ตอนนี้ก็กลับบ้านกันหมด บ้างก็มาทำซาลาเปาพญาลอมขายให้กับคนในชุมชน และนักท่องเที่ยว บางคนไม่ได้ทำซาลาเปาขาย ก็มาขับรถพ่วงข้างพานักท่องเที่ยว ชมเมืองโบราณเวียงลอ

          ชมการสาธิต การทำผลิตภัณฑ์เครื่องจักสารไม้ไผ่ บ้านเวียงลอ

     ปั้นซาลาเปาเสร็จก็มานั่งรถพวงข้างไปชม วัดโบราณเวียงลอสมัยล้านนา ก่อนถึงวัดโบราณ แวะชมการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์เครื่องจักสารไม้ไผ่บ้านเวียงลอ มีการตั้งเป็นกลุ่มจักสานไม้ไผ่บ้านเวียงลอ โดยสมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุ สามารถทำจักสานไม้ไผ่กันได้หมด และมีการตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนเวียงลอขึ้น พัฒนาต่อยอดจากเดิมที่มีเพียงเครื่องมืออุปกรณ์หาปลา และของใช้ในครัวเรือน ได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ขึ้นมา เช่นพวงมาลัยไม้ไผ่ ช่อดอกไม้ไผ่ ชะลอมไม้ไผ่ ให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้

          วัดโบราณเวียงลอ สมัยล้านนา 

     ตามหลักฐานต่างๆ เชื่อว่าเวียงลอเป็นเมืองเดียวในเขตล้านนาที่ปรากฏหลักฐานแนวคันดินกั้นลำน้ำ แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญา ในการทำระบบชลประทานขนาดใหญ่ที่มีประโยชน์ด้านควบคุมน้ำ เพื่อใช้ในด้านการเกษตร และเพื่อป้องกันน้ำท่วม พื้นที่เกษตร รวมทั้งศาสนสถานต่างๆ และที่ตั้งบ้านเรือนของชุมชน 

     ภายในเขตกำแพงเมืองพบวัดร้าง หรือ “กู่” รายรอบอยู่กว่า 16 กู่ ซึ่งบางกู่ก็อยู่ในสวนลำใย สวนส้มโอ และทุ่งนาของชาวบ้านซึ่งเป็นพื้นที่นาโบราณ คนที่นี่เรียกว่า “กัลปนา” คือที่นาที่เจ้าเมืองท่านแบ่งให้ โดยกำหนดไว้ว่าข้าทาสประมาณ 5 – 10 ครอบครัวต้องทำนาปลูกข้าวถวายให้กับพระสงฆ์ ตามวัดร้างจะพบพระพุทธรูปหินทราย และพระพุทธรูปทองสำริดจำนวนมาก แต่ถูกทำลายไปเกือบหมด พบเศษภาชนะดินเผาทั้งวัฒนธรรมหริภุญไชยตอนปลาย และภาชนะดินเผาจากแหล่งเตาล้านนา จึงนำมาเก็บไว้ให้ที่พิพิฒฃธภัณฑ์เวียงลอ วัดศรีปิงเมือง

         สัมผัสชุมชนไทลื้อเชียงคำ

    เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยการไปสัมผัสชุมชนไทลื้อ เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทลื้อ ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ชาวไทลื้อได้อพยพมาจากแคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน ตั้งถิ่นฐานกระจายกันเป็นหมู่บ้าน ต่างมีวิถีชีวิตแบบชาวไทลื้อที่ชัดเจน มีการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อเรื่องผี ใช้ภาษาลื้อ และอู้คำเมือง ในการสื่อสาร เครื่องแต่งกายแบบชาวไทลื้อ ผู้ชายจะสวมเสื้อแขนยาว แล้วทับด้วยเสื้อกั๊กที่ปักลวดลาย ส่วนผู้หญิงจะสวมเสื้อแขนยาวที่เรียกว่าเสื้อปั๊ด นุ่งซิ่น ทั้งชายและหญิงจะสวมผ้าโพกศีรษะ 

        บ้านไทลื้อโบราณ บ้านแม่แสงดา

   เฮือนไทลื้อแม่แสงดา  ตั้งอยู่ที่บ้านธาตุสบแวน ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ  จังหวัดพะเยา มีแม่แสงดา  สมฤทธิ์ เป็นเจ้าของบ้าน แม่แสงดา ได้อนุรักษ์บ้านหลังนี้ที่อาศัยอยู่จริง ไว้ให้คงสภาพเดิม ไม่มีการปรับปรุงตกแต่ง เพิ่มเติมใดๆ บ้านเป็นศิลปะโบราณแบบไทลื้อ สิบสองปันนา ตัวบ้านยกสูงใต้ถุนโล่งไว้สำหรับทอผ้า หลังคาทรงจั่ว ตัวเรือนมีสองฝั่ง มีโถงกลางแจ้งเป็นตัวเชื่อม เรือนใหญ่จะอยู่ทางขวา และเรือนรองจะอยู่ทางด้านซ้าย 

   เฮือนไทลื้อแม่แสงดา ถือเป็นห้องรับแขกของชุมชนไทลื้อในเชียงคำไปแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงคำ ต้องมาแวะเยี่ยมแม่แสงดากันเกือบทุกคน ปัจจุบันแม่แสงดา ยังคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว พูดคุย ผูกแขน ให้พร ถ่ายรูป ด้วยตนเอง แม้อายุจะเก้าสิบกว่าแล้ว 

         วัดนันตาราม วัดศิลปะพม่า

   วัดนันตาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลหย่วน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ไม่ปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด เดิมเรียก “จองม่าน” หรือ “จองคา” เพราะหลังคามุงด้วยหญ้าคา ต่อมาในปี พ.ศ.2467 ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันบูรณะปรับปรุงเสนาสนะ ให้มีความมั่นคงแข็งแรง สมเป็นพุทธสถาน โดยสร้างวิหารหลังใหม่ โดยช่างชาวพม่าจากจังหวัดลำปาง มาออกแบบ และทำการก่อสร้างเป็นวิหารไม้ทั้งหลัง รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบพม่าตอนล่าง หลังคาหน้าจั่วยกเป็นช่อชั้นลดหลั่น 3 ชั้น มุงด้วยไม้แป้นเกร็ด เพดานประดับประดาด้วยกระจกสีลวดลายวิจิตร ไม่ซ้ำกัน ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น วัดนันตาราม 

      วัดศรีชุม วิหารสีขาวสไตล์ล้านนา

  วัดศรีชุม ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ได้ก่อสร้างวิหารพระเจ้าทันใจขึ้นมาใหม่ เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ ด้านนอกเป็นใช้ปูนปั้นศิลปะเชียงแสนทำ ทาด้วยสีขาวทั้งหลัง ตั้งอยู่บนฐานยกสูง 6 เมตร ภายในวิหารประดิษฐานพระเจ้าทันใจ แกะสลักจากไม้ ประตู หน้าต่าง ผนังภายในบุด้วยไม้สักทองทั้ง 4 ด้าน รวมถึง แกะสลักเรื่องราวในพุทธชาดก แบบ 3 มิติ

         ร่วมกิจกรรม Grand Moment แห่งความทรงจำ

     ช่วงเย็นเข้าร่วมกิจกรรม Grand Moment แห่งความทรงจำ โดยส่งมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ ไปพร้อมๆ กับสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติของกว๊านพะเยาและวัฒนธรมของจังหวัดพะเยา ในทุกวันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำของทุกเดือน ในช่วงเวลา 17.00 -19.00 น. ณ วัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา  อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ขับเคลื่อน ท่องเที่ยวเมืองพะเยา 9 หน้าตลอดปี 2569 กับ เที่ยว 9 อำเภอ 9 วัด 9 สิ่งต้องทำณวัดเก่า–เกาะกลางกว๊านพะเยา ทุกเดือนต่อไป

      กิจกรรมภายในงานฯ ช่วงเวลา 17.00 – 18.00 น. นักท่องเที่ยวล่องเรือจากท่าเรือกว๊านพะเยาไปวัดติโลกอารามกลางกว๊านพะเยา ร่วมกิจกรรม 9 สิ่งต้องทำบนวัดติโลกอาราม ประกอบด้วย 1.บูชาชุดดอกไม้ธูปเทียน 2.ตักบาตรข้าวสาร 3.สรงน้ำหลวงพ่อศิลา 4.เติมน้ำบ่อน้ำทิพย์ และเติมน้ำลงสู่ทะเลสาบน้ำจืดกว๊านพะเยา 5.บวชต้นไม้ 6.บูชาพญานาคีณีศรีปทุมมา 7.ปล่อยปลา สัตว์น้ำลงสู่ทะเลสาบน้ำจืดกว๊านพะเยา 8.ลอยเทียนวันเกิด 9.เติมน้ำมันตะเกียง จากนั้น เวลา 18.00 น.เริ่มพิธีสงฆ์ จุดธูปเทียนไหว้พระหลวงพ่อศิลา ทำวัดสวดมนต์-นั่งสมาธิ-ร่วมพิธีบูชาเทียนสืบชะตา-ลดเคราะห์-รับโชค  พิธีสวดมนต์ทำน้ำมนต์ รับน้ำทิพย์กลับบ้านเสริมสิริมงคล บ่อน้ำอยู่ด้านหลังหลวงพ่อศิลา และเวียนเทียน 3 รอบ บนวัดติโลกอาราม เป็นอันเสร็จพิธี

         กราบขอพร พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ

      เช้าวันที่ 3 คณะของเราเดินทางไปกราบขอพร พระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ โดยสร้างขึ้นในระหว่างปีพุทธศักราช 2034 – 2067  วัดคู่บ้านคู่เมืองริมกว๊านพะเยา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดพะเยา ภายในพระวิหารหลวงประดิษฐาน พระเจ้าตนหลวง ศิลปะเชียงแสน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในล้านนา

       ไหว้สาพระเกศาธาตุ วัดพระธาตุจอมทอง

   วัดพระธาตุจอมทองตั้งอยู่ที่บนดอยจอมทอง ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ถือว่าเป็นปูชนียสถานคู่เมืองพะเยา และเป็นวัดสำคัญที่ประดิษฐาน ภายในพระธาตุจอมทอง บรรจุเกศาธาตุ และพระธาตุแขนขวาของพระพุทธเจ้า ไม่ปรากฎหลักฐานว่าพระธาตุนี้สร้างเมื่อใด องค์พระธาตุจอมทอง เป็นสีทองเหลืองอร่าม เป็นเจดีย์ทรงล้านนาสูง 30 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง 9 เมตร ซ้อนทับกันสามชั้น ส่วนยอดด้านบนสุดจะเป็นฉัตรสีทอง ฐานโดยรอบก็จะบุด้วยแผ่นโลหะ ดุนลายเป็นรูป 12 นักษัตร และลายไทยอย่างสวยงดงาม 

        ชมพระแก้วมรกตทองคำจำลอง วัดอนาลโยทิพยาราม 

    วัดอนาลโยทิพยาราม ตั้งอยู่บนดอยบุษราคัม บ้านสันป่าบง ตำบลสันป่าม่วง สร้างขึ้นโดยพระปัญญาพิศาลเถร หรือหลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล เป็นวัดที่โดดเด่นด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานวัฒนธรรมล้านนา พม่า และไทใหญ่เข้าด้วยกัน ภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม และพระพุทธรูปปางต่าง ๆ อีกหลายองค์ เช่น พระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปปางลีลา พระพุทธรูปปางนาคปรก นอกจากนี้ยังมีองค์รัตนเจดีย์ที่สร้างตามศิลปะอินเดีย พุทธคยา มีเก๋งจีนซึ่งประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิม หอพระแก้วมรกตจำลองทำด้วยทองคำ พระบุษราคัม พระเงิน พระทอง และพระนาค

       ขอพรท้าวเวสสุวรรณ วัดสันมะเหม้า

     ปิดท้ายทริปด้วยการมา ขอพร เสริญโชคลาภ ท้าวเวสสุวรรณ วัดสันมะเหม้า ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นวัดเก่าแก่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรภูกามยาว มีอายุกว่า 900 ปี ได้รับการบ บูรณะขึ้นเมื่อ พ.ศ.2324 จนต่อมาสมัยนั้นเกิดศึกสงคราม วัดก็เสื่อมโทรมตามกาลเวลา จนมา พ.ศ.2470 ครูบากุย ยาวิชัย ได้จาริกธุดงค์มาจาก จ.ลำพูน และได้บูรณะวัดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ปัจจุบันมีพระอาจารย์วิรุต ญาณสํวโร (นรรัตน์) เกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นเจ้าอาวาส ภายในวัดมีรูปปั้น ครุฑ พระพิฆเนศ พระราหู ให้ผู้ศรัทธามากราบไหว้ขอพรไม่ สายมูต้องห้ามพลาด

     สนใจทริปท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่ ททท.ศูนย์ฯพะเยา โทร.054430400 เพจ : ททท.ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา