www.สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม.com

TEPA - Travel & Environment Press Agency

ANE4226-S

  “นั่งรถไฟ KIHA183 ท่องดินแดนดึกดำบรรพ์ มหัศจรรย์ดาวบนดิน @ นครราชสีมา”

    เรื่อง สุเทพ ช่วยปัญญา ภาพ สุเทพ ช่วยปัญญา อรอุมา นนทะเสน สำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

       การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (สสทท.) สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) บริษัทเมืองไทยครีเอทีฟแอนด์ทัวร์จำกัด และสำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม (สทส.) จัดกิจกรรม “นั่งรถไฟ KIHA183 ท่องดินแดนดึกดำบรรพ์ มหัศจรรย์ดาวบนดิน @ นครราชสีมา”

          ลงทะเบียนรับป้ายคล้องคอ     

      นักท่องเที่ยวเดินทางมาลงทะเบียน ที่สถานีหัวลำโพงตั้งแต่เวลา 6.30 นาฬิกา และรับป้ายคล้องคอ กันแต่เช้า ลงทะเบียนเรียบร้อยรับเครื่องดื่มร้อน ชา กาแฟ โอวันติน จากนั้นใครจะถ่ายรูปเช็คอินก่อนขึ้นรถไฟก็ได้ รถไฟ KIHA183  ออกเดินทางจากชาลชาลาที่ 4 สถานีรถไฟหัวลำโพงในเวลา 7.30 นาฬิกา เพื่อเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา

           สถานีผาเสด็จกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์. 

        สถานีผาเสด็จรัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ ต่อจากอยุธยาไปนครราชสีมา โดยเส้นทางนี้จะผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอแก่งคอย และเป็นทางรถไฟสายแรกจากพระมหานคร ไปนครราชสีมา ตัดผ่าเข้าดงพญาเย็น ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นภูเขามีหินก้อนใหญ่โตขวางอยู่ พยายามจะระเบิดอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ รัชกาลที่ ๕ จึงโปรดเกล้าฯให้นำตราแผ่นดินไปประทับลงโคนต้นไม้ใหญ่ ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย การระเบิดภูเขาจึงดำเนินต่อไปโดยไร้อุปสรรค พระองค์ทรงจารึกอักษรพระนาม จ.ป.ร.และ ส.ผ. และลงเลข 115 ไว้ที่หินศิลาใหญ่ อยู่กับสถานี และได้พระราชทานนามศิลาแห่งนี้ว่า “ผาเสด็จพัก” 

       รถไฟ KIHA183 เดินทางมาถึงสถานีผาเสด็จในเวลา 10.15 นาฬิกา และจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปกราบสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๕ ถ่ายรูป เช็คอิน เป็นเวลา 25 นาที นักท่องเที่ยวรวมตัวถ่ายรูปหมู่กันที่หน้า พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๕ ก่อนที่จะแยกย้ายไปถ่ายรูปส่วนตัวกัน  

        สถานีรถไฟนครราชสีมาททท. สำนักงานนครราชสีมาให้การต้อนรับ

    เวลา 13.00 นาฬิกา รถไฟ KIHA183 เดินทางมาถึงสถานีนครราชสีมา นักท่องเที่ยวต่างทยอยเดินลงมาจากรถไฟ เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนคราชสี มาให้การต้อนรับ และถ่ายรูปหมู่ร่วมกันที่หน้าสถานีรถไฟนครราชสีมา ก่อนที่จะขึ้นรถตู้เดินทางต่อไปที่ภัตตาคารเสียวเสี้ยว เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

        ประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเสียวเสี้ยว

      นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย นางรุ่งทิพย์  บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา กล่าวต้อนรับคณะท่องเที่ยวที่มากับรถไฟ KIHA 183 เพื่อแนะนำสถานที่ต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา

      อาหารกลางวันมื้อนี้เป็นอาหารจีน แบบเซ็ทเมนู ประกอบไปด้วย ออร์เดิร์ฟรวมมิตร กระเพาะปลาน้ำแดง ยำสามกรอบ ตามมาด้วยเมนคอร์ส ผัดลูกชิ้นกุ้งผักกาดดอง ผัดหมี่ฮ่องกง เป็ดอบซอสเอ็กซ์โอ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว และต้มจืดสาหร่าย ปิดด้วยของหวานเป็นลิ้นจี่กระป๋อง อาหารอร่อยทุกอย่าง  

       เรือนรักษ์รถไฟสูงเนินชมพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย

    เรือนรักษ์รถไฟสูงเนิน ตั้งอยู่ที่เดียวกับ สถานีรถไฟสูงเนิน คาดว่าสร้างขึ้นพร้อมกับ การเปิดเส้นทางรถไฟหลวงสายนครราชสีมาในปีพ.ศ.2443 ตัวอาคารสร้างด้วยไม้สองชั้นแบบเรียบง่าย หลังคาทรงจั่วมุงกระเบื้องลอนคู่ ชายคายื่นยาว มีประตูหน้าต่างเป็นบานลูกฟักไม้ เหนือผนังชั้นบนตลอดแนวเป็นช่องระบายลม ตีแนวทแยงไขว้กันเป็นรูปข้าวหลามตัด

     นอกจากตัวอาคารสถานีรถไฟแล้วยังมี บ้านพักนายสถานี บ้านพักพนักงานรถไฟ ถังเก็บน้ำ เสาหัวจ่ายน้ำ อาคารเก็บเครื่องมือ และชิ้นส่วนซากรถไฟเล็กที่เป็นรถไฟขนฟืน ซึ่งในอดีตรถไฟที่ใช้งานเป็นแบบรถจักรไอน้ำ ใช้ในการลากจูงขบวนรถโดยสาร และรถสินค้า รถจักรไอน้ำจะต้องมีการ เติมน้ำ ตลอดเส้นทางแต่ละช่วงสถานี ดังนั้น ตลอดเส้นทางรถไฟเราจะพบเห็นถังน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟบางแห่ง ซึ่งปัจจุบันได้ถูกทิ้งร้างเนื่องจากไม่มีการใช้งานแล้ว

    โดยชาวบ้านสูงเนินได้จัดตั้งเครือข่ายการอนุรักษ์สถานีรถไฟสูงเนิน มีการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการอนุรักษ์สถานีรถไฟสูงเนิน รวมถึงนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จากหลายสถาบัน ได้ร่วมกันสำรวจสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของสถานีรถไฟสูงเนิน ในปีพ.ศ.2558  และปี พ.ศ. 2560 นำไปสู่การจัดการปรับปรุงบ้านพักอาคารสถานีรถไฟ ให้เป็นอาคารเรือนรักษ์รถไฟ และพื้นที่โดยรอบเป็นสวนสุขภาพออกกำลังกายของชาวสูงเนิน 

     หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว นักท่องเที่ยวแต่งชุดผ้าไทย เพื่อเตรียมตัวไปร่วมงาน  กินเข่าค่ำ Mini Light & Sound ณ ปราสาทเมืองแขก ในตอนเย็น ก่อนไปร่วมงานก็แวะมาชม เรือนรักษ์รถไฟสูงเนิน กันก่อน มีซาลาเปาทอด กับน้ำอันชันมะนาว เป็นอาหารว่างให้นักท่องเที่ยวทาน ก่อนเข้าชม และถ่ายรูปหมู่ร่วมกันก่อนที่หน้าพิพิธภัณฑ์ ภายในจัดแสดงภาพถ่ายเก่าๆ เกี่ยวกับสถานีรถไฟสูงเนิน มีเก้าอี้รถไฟที่ทำด้วยไม้ให้นักท่องเที่ยวนั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน

       ไหว้พระนอนหินทรายอายุกว่า 1,300 ปี

   พระนอนวัดธรรมจักรเสมาราม ตั้งอยู่ที่เมืองเสมา ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน เป็นพระนอนหินทราย แบบปฏิมากรรมลอยตัว ศิลปะทวาราวดี อายุราว 1,200 – 1,300 ปี ที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 8 เมตร สูง 2.80 เมตร ตอนที่พบครั้งแรกพระนอนถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ส่วนอกถึงพระเศียรฝังอยู่ในดิน พระบาทตั้งขึ้นอยู่บนดิน กรมศิลปากรมาขุดค้นในปีพ.ศ. 2533 บรูณะและจัดเรียงขึ้นมาใหม่ ตั้งอยู่ในอาคารมีหลังคาครอบกันฝนเรียบร้อยแล้ว

     แต่งชุดผ้าไทยร่วมงานกินเข่าค่ำ Mini Light & Sound ปราสาทเมืองแขก

   งานประเพณี กินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนมีนาคม ณ ปราสาทเมืองแขก บ้านกกกอก ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2538 เป็นการจัดแบบเรียบง่าย คนในชุมชนเตรียมอาหารมารับประทานร่วมกัน และมีการแสดงพื้นบ้าน ต่อมาได้มีการปรับปรุงรูปแบบให้กระชับทันสมัยขึ้น และเพิ่มการแสดงแสง สี เสียง ชุดศรีจนาศะปุระ ซึ่งเป็นการแสดงที่เกี่ยวกับตำนานพื้นเมืองสูงเนิน และปรับปรุงการกินเข่าค่ำให้เป็นแบบขันโตก

    ช่วงบ่ายนักท่องเที่ยวไปชมเรือนรักษ์รถไฟสูงเนิน ที่สถานีรถไฟสูงเนิน และแวะกราบขอพร พระพุทธไสยาสน์ศิลา เพื่อความเป็นสิริมงคล นักท่องเที่ยวร่วมกันแต่งชุดผ้าไทย เข้าร่วมงาน ประเพณี กินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนิน ในช่วงเย็น รับประทานอาหารเย็นแบบขันโตก จัดแบบสบายๆ ให้นั่งโต๊ะละ 4 คน เมนูมี ไส่กรอกอีสานเป็น ออร์เดิร์ฟ ตามด้วยไก่ย่างสูงเนิน ยำปลาดุกฟู เมนคอร์สเป็นผัดหมี่โคราช เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมาในห่อใบตอง พร้อมชมการแสดง ชุดศรีจนาศะปุระ ตำนานพื้นเมืองสูงเนิน แสง สี เสียง สุดประทับใจ”

       กราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและชมซุ้มประตูเมืองเก่าโคราช

    อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ระหว่างถนนราชดำเนินกับถนนชุมพล อำเภอเมือง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม ถือเป็นอนุสาวรีย์ที่ยกย่องความดี ของวีรสตรีสามัญชนคนแรกของประเทศ อนุสาวรีย์นี้หล่อด้วยทองแดงรมดำสูง 185 เซนติเมตร หนัก 325 กิโลกรัม ประดิษฐานอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน ในท่ายืนมือขวากุมดาบ มือซ้ายท้าวสะเอว หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร

          ชมซุ้มประตูชุมพลซุ้มประตูเมืองเก่าโคราช

   เมืองโคราช เป็นประตูสู่ภาคอีสานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากโคราชเป็นเมืองหน้าด่าน จึงได้สร้างกำแพงเมือง และประตูเมืองขึ้น ประตูเมืองถูกสร้างขึ้นจากศิลาแลง ทั้งหมด 4 ทิศ ด้วยกัน คือ ทิศเหนือ ประตูพลแสน ทิศใต้ ประตูไชยณรงค์ ทิศตะวันออก ประตูพลล้าน ปัจจุบัน ประตูชุมพลเป็นประตูเดิมที่ได้รับการบูรณะเพียงประตูเดียว อยู่ติดกับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ใครลอดซุ้มประตูนี้ ก็จะแคล้วคลาด และจะได้กลับมาโคราชอีกครั้ง ส่วนประตูที่เหลือ ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หมดแล้ว

      ร่วมกิจกรรมผ้ามัดย้อมดินจากเขาเควสต้าชุมชนท่องเที่ยวจีโอพาร์คเขาจันทน์งาม

  ชุมชนท่องเที่ยวจีโอพาร์ค เขาจันทน์งาม ตั้งอยู่ที่หมู่ 12 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสี เป็นชุมชนท่องเที่ยวจีโอพาร์ค มีกิจกรรมเรียนรู้ workshop ผ้ามัดย้อมดิน เล่าเรื่องผาชมภาพ เขียนสีโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ พาชมธรรมชาติศึกษาธรณี วัดเขาจันทร์งาม 

     หลังจากกราบขอพรท้าวย่ายโม เสร็จแล้วก็เดินทางต่อมาที่ ชุมชนท่องเที่ยวจีโอพาร์ค เขาจันทน์งาม ได้น้ำใบย่านางผสมน้ำผึ้งเป็น Welcome Drink ต้อนรับ นักท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อมาทำกิจกรรมกับชุมชน กิจกรรมแรกก็คือการทำผ้ามัดย้อมจากดินเขาเควสต้า ที่อยู่ในแหล่งจีโอพาร์ค มัดย้อมให้เป็นลายต่างๆ ที่เช่นรูปหัวใจ หอยฟอสซิลโบราณ ทำเสร็จแล้วนำกลับบ้านเป็นของที่ระลึกไปเลย

       ทำสปามือสปาเท้ากับชุมชนเขาจันทน์งาม

   กลุ่มที่ 2 แยกไปทำสปามือ สปาเท้า กับชุมชนเขาจันทน์งาม ด้วยสมุนไพรที่หาได้ในท้องถิ่น ทางชุมชนได้เตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อมแล้ว นักท่องเที่ยวนำมือหรือเท้าลงไปแช่ได้เลย แต่ต้องรอน้ำร้อนให้อุณหภูมิลดลงก่อน พอที่จะเอาเท้าลงไปแช่ได้ ส่วนมากจะแช่เท้าก่อน เสร็จแล้วถึงจะแช่มือ ทำสปาเสร็จแล้วจะรู้สึกสบายขึ้นทั้งมือและเท้า บรรเทาอาการเมื่อยล้าไปได้มากที่เดียว

         ชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์อายุกว่า 4,000 ปีวัดเขาจันทน์งาม

     ส่วนกลุ่มที่ 3 เดินขึ้นไปชมภาพเขียนสีโบราณ อายุกว่า 4,000 ปี บนเขาจันทน์งาม ถูกค้นพบจากการสำรวจในปี พ.ศ. 2526 อยู่บนผนังหินผาสูงจากพื้นประมาณ 3 – 4 เมตร บริเวณนี้น่าจะเคยเป็นที่อยู่ของคนยุคโบราณ เนื่องจากเป็นบริเวณของรอยแยกหิน เป็นลักษณะร่องเขา คล้ายกับแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคหินก่อนประวัติศาสตร์ 

      เป็นภาพเขียนสีด้วยสีแดง มีทั้งภาพลงสีแบบเงาทึบ และภาพร่างรูปคน เพศชาย หญิง เด็ก และสัตว์ ในท่านั่ง เต้นรำ ยืน และยิงธนู ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ราว 3,000 – 4,000 ปี มาแล้ว ภาพเขียนสีที่ปรากฏจำนวน 12 กลุ่ม ที่ยังไม่สามารถแปลความหมายได้อีกจำนวนหนึ่ง

         รับประทานอาหารกลางวันกับชุมชนเขาจันทน์งาม

   ชุมชนเขาจันทน์งามยังทำอาหารกลางวัน ให้คณะนักท่องเที่ยวได้รับรับประทานด้วย เมนูก็เป็นเมนูแบบท้องถิ่น ประกอบด้วย ไข่เจียว ลาบคั่วหมูสับผักสด ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ของหวานเป็นผลไม้ตามฤดูกาล สำหรับ สายมัง ก็เมนูอาหารมังสวิรัติ แกงขี้เหล็ก เห็ดทอดน้ำพริกเผา ให้เลือกทานด้วย

        ชมช้อมซื้อของฝากผลิตภัณฑ์จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเขาจันทน์งาม

   รับประทานอาหารกลางวันกับชุมชนเสร็จแล้ว ก็ช้อปสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเขาจันทน์งาม ติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนทางบ้านได้ด้วย เพราะทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเขาจันทน์งาม นำสินค้ามาออกร้านจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วยสินค้าชุมชนก็มีหลายหลากให้เลือก เสื้อยืดรูปภาพเขียนสี ย่าม ชุดกระโปรง ชุดนอน ที่ทำจากผ้ามัดย้อม หมี่โคราชกรอบ น้ำผึ้งเลี้ยงเป็นต้น

       เยี่ยมชมมรดกโลกป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ 

    เขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีอาณาเขตครอบคลุม 11 อำเภอ ของ 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และ จังหวัดนครนายก เป็นพื้นที่ผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาเย็นหรือดงพญาไฟในอดีต ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่” จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 29 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ที่เมืองเดอร์บัน สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ โดยขึ้นบัญชีเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติในลำดับที่ 184 ของโลก 

    ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้างป่า กวางป่า เก้ง กระทิง เสือ ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงามพื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ประกอบด้วยพื้นที่คุ้มครอง (Protected Area) หรือ พื้นที่อนุรักษ์ ธรรมชาติจํานวน 5 แห่ง ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ รวมเนื้อที่ประมาณ 3,845,082.53 ไร่ หรือราว 6,152.13 ตารางกิโลเมตร

    แวะเขาใหญ่ก่อนกลับ และเข้ารับฟังการบรรยายสรุป ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ จาก นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ คนปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ออกมาปกป้องผืนป่าเขาใหญ่ สู้กับอิทธิพลหมุด...นิรนาม อย่างเป็นเต็มกำลัง

        เดินทางกลับที่สถานนีรถไฟปากช่อง

    ลงจากเขาใหญ่มาที่สถานีปากช่อง เพื่อขึ้นรถไฟKIHA 183 เดินทางกลับสถานีหัวลำโพง รถตู้มาส่งนักท่องเที่ยวที่สถานีปากช่อง เวลาเฉียดฉิวอย่างมาก เรียกว่าเอากระเป๋าเดินทางขึ้นบนรถไฟเสร็จ รถไฟก็ออกทันทีในเวลา 16.20 นาฬิกา และถึงสถานีหัวลำโพงในเวลา 20.05 นาฬิกา รถไฟทำเวลาได้เป็นอย่างดี ไม่เสียเวลาเลย เพราะจากสถานีหัวลำโพงถึงสถานีนครราชสีมา รางรถไฟเป็นทางคู่หมดแล้ว ขากลับก็ยังมีบริการอาหารค่ำ ผัดหมี่ซั่วไก่ กับขนมวุ่นลูกชุบ ให้นักท่องเที่ยวทานรองท้องระหว่างเดินทางกลับด้วย 

    “นั่งรถไฟ KIHA183 ท่องดินแดนดึกดำบรรพ์ มหัศจรรย์ดาวบนดิน @ นครราชสีมา” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 -10 มีนาคม 2567 สามารถติดตามข่าวสาร จองทริปต่อไปของรถไฟ KIHA 183 และสามารถโหลดรูปในทริปนี้ได้ทางเพจ Feacbook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย  

Share this post